สาย IEC01 เป็นหนึ่งในสายไฟที่ได้รับความนิยมสูงในงานระบบไฟฟ้า ทั้งในภาคครัวเรือนและงานอุตสาหกรรมเบา ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านความปลอดภัย ความทนทาน และมาตรฐานการผลิตระดับสากล สายไฟชนิดนี้จึงถูกเลือกใช้อย่างแพร่หลาย 

อย่างไรก็ตาม การใช้งานให้ปลอดภัยและถูกต้องตามหลักวิศวกรรมยังเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

สาย IEC01 คืออะไร ?

สาย IEC01 หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “สายเดี่ยว” เป็นสายไฟที่มีตัวนำทองแดงชนิดแข็ง หุ้มด้วยฉนวน PVC อย่างหนาแน่น โดยผ่านมาตรฐาน IEC (International Electrotechnical Commission) ซึ่งเป็นองค์กรระดับสากลที่ควบคุมคุณภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้า

สาย IEC01 สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้สูงสุดที่ 450/750 โวลต์ และใช้งานได้ที่อุณหภูมิไม่เกิน 70 องศาเซลเซียส มักใช้ในระบบไฟฟ้าภายในอาคาร เช่น การเดินสายไฟบนรางเคเบิล หรือฝังในท่อร้อยสายที่ไม่ต้องเคลื่อนย้ายตัวสายบ่อยครั้ง

จุดเด่นของสายไฟ IEC01

  • แข็งแรงและทนทาน : ตัวนำทองแดงแบบแข็ง ช่วยให้งานติดตั้งแน่นหนา
  • ผ่านมาตรฐานสากล : มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
  • ราคาย่อมเยา : เหมาะกับงานทั่วไปที่ไม่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
  • เหมาะกับการเดินสายถาวร : โดยเฉพาะภายในท่อหรือรางที่ปิดมิดชิด

การใช้งานสาย IEC01 ให้ปลอดภัย

แม้ว่าสาย IEC01 จะเป็นสายที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่หากใช้งานไม่ถูกวิธี อาจเกิดอันตรายได้ โดยควรพิจารณาเรื่องเหล่านี้

  • เลือกขนาดสายให้เหมาะสม

การเลือกขนาดสายที่เหมาะสมกับกระแสไฟฟ้าที่ใช้งานจะช่วยลดความร้อนและป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร เช่น ถ้าใช้งานกับอุปกรณ์ที่กินไฟมาก ควรใช้สายขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับกระแสได้เพียงพอ

  • ติดตั้งอย่างถูกวิธี

สาย IEC01 ไม่เหมาะกับการเดินเปลือยหรือใช้งานภายนอกอาคาร ควรเดินภายในท่อร้อยสายที่ปิดสนิท หรือภายในฝาครอบ เพื่อป้องกันความเสียหายจากแรงกระแทก ความชื้น หรือสัตว์รบกวน

  • ไม่ควรดัดโค้งหรือเคลื่อนย้ายบ่อย

เนื่องจากสายมีความแข็ง การดัดงอบ่อย ๆ อาจทำให้ฉนวนแตกร้าว ซึ่งเสี่ยงต่อการรั่วไหลของกระแสไฟ ควรเดินสายให้อยู่ในตำแหน่งถาวร และมีการยึดสายให้แน่นหนา

  • ตรวจสอบมาตรฐานก่อนซื้อ

ควรเลือกซื้อสายที่ผ่านมาตรฐาน มอก. 11-2553 (หรือมาตรฐานเทียบเท่า IEC) และมีสัญลักษณ์รับรองจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้

สาย IEC01 เหมาะกับใคร ?

สาย IEC01 เหมาะสำหรับช่างไฟฟ้า วิศวกร หรือเจ้าของบ้านที่ต้องการเดินระบบไฟฟ้าภายในอาคารแบบถาวร โดยเฉพาะในงานที่ไม่ต้องมีการเคลื่อนย้ายสายบ่อย ๆ เช่น การเดินสายภายในผนังหรือท่อใต้ฝ้าเพดาน

หากต้องการใช้งานภายนอกอาคารหรือพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ควรเลือกใช้สายชนิดอื่น เช่น THW หรือ VCT แทน

สาย IEC01 คือสายไฟที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยคุณภาพมาตรฐาน ความทนทาน และราคาที่เหมาะสม เหมาะกับการใช้งานภายในอาคารแบบถาวร หากเลือกใช้อย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกขนาดสาย การติดตั้ง หรือการเลือกผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ ก็จะช่วยให้การใช้งานระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยในระยะยาว ดังนั้น การเข้าใจคุณสมบัติของสาย IEC01 และการใช้งานอย่างถูกต้อง คือกุญแจสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบไฟภายในอาคารของคุณอย่างแท้จริง

 

เหล็กไอบีมเป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งในงานโครงสร้างอาคาร บ้านพักอาศัย หรือโรงงานอุตสาหกรรม เพราะมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน และสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ในบทความนี้เราจะพาคุณไปดู 3 ประโยชน์ดี ๆ ของเหล็กไอบีมที่ทำให้หลายโครงการเลือกใช้งานอย่างต่อเนื่อง

  1. แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้เยี่ยม

เหล็กไอบีมมีลักษณะหน้าตัดคล้ายตัว I ซึ่งออกแบบมาเพื่อกระจายน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นคาน เสา หรือโครงสร้างหลักของอาคาร ช่วยลดความเสี่ยงต่อการบิดตัวหรือทรุดตัวเมื่อเจอแรงกดทับจำนวนมาก จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยของงานก่อสร้าง

  1. ใช้งานได้หลากหลายประเภทโครงสร้าง

อีกหนึ่งจุดเด่นของเหล็กไอบีมคือความยืดหยุ่นในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้างอาคารสูง สะพาน คลังสินค้า หรือโครงหลังคา เหล็กไอบีมสามารถปรับใช้ได้กับหลากหลายรูปแบบของงานก่อสร้าง ช่วยให้การออกแบบเป็นไปอย่างอิสระและมีประสิทธิภาพ

  1. อายุการใช้งานยาวนาน ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว

เหล็กไอบีมมีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม จะสามารถใช้งานได้นานหลายสิบปี ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนวัสดุในระยะยาว

 

ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายเหล่านี้ ทำให้เหล็กไอบีมยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในแวดวงวิศวกรรมและงานสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็นโครงการเล็กหรือใหญ่ การเลือกใช้เหล็กไอบีมคือการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

 

เคยไหม? แต่งหน้าออกจากบ้านทีไร ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ผิวหน้าก็มันเยิ้ม แป้งที่ทาไว้ก็หลุดลอก ไม่ว่าวันนั้นสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร ก็ยังแต่งหน้าไม่ทนอยู่ดี แบบนี้จะมีวิธีไหนช่วยแก้ปัญหาได้บ้างนะ ขอแนะนำ 3 สเต็ปง่าย ๆ ในการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า ที่จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทน พร้อมเผยผิวสวยฉ่ำ อวดความสวยได้ทุกฤดู!

เตรียมผิวก่อนแต่งหน้า

เคล็ด(ไม่)ลับ เตรียมผิวอย่างไรให้แต่งหน้าติดทน

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ

สำหรับเคล็ดลับข้อแรกในการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า บอกเลยว่าต้องทำอย่างน้อย 1 คืนก่อนวันที่เราต้องการจะใช้หน้า นั่นก็คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการที่เรานอนดึกหรือนอนน้อยเกินไป จะทำให้ผิวแห้งกร้าน ขนาดความชุ่มชื้น ใต้ตาดูคล้ำ และผิวหมอง ไม่สดใส ทำให้ไม่ว่าจะโบกรองพื้นแค่ไหนผิวก็ยังดูไม่สวยทน ยิ่งใช้คอนซีลเลอร์กลบ ก็ยิ่งดูหนาจนเกินพอดี ทางที่ดี ให้เราพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ตื่นมาผิวสวยฟู พร้อมสำหรับการแต่งหน้าในสเต็ปต่อไป!

  1. มาส์กหน้าเพิ่มความชุ่มชื้น

หลังจากที่ล้างหน้าแล้ว ก่อนที่จะเริ่มแต่งหน้า อันดับแรกให้เรามาส์กหน้าด้วยแผ่นมาส์กสูตรเพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อช่วยเติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวดูฉ่ำวาว ช่วยให้การลงเครื่องสำอางในขั้นต่อไปเป็นเรื่องง่าย และแต่งหน้าได้ติดทนมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการมาส์กก่อนแต่งหน้าแล้ว การมาส์กล่วงหน้าเป็นประจำอย่างน้อย 3 วันก่อนที่จะใช้หน้า ก็จะยิ่งช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีมากขึ้น

  1. เลือกครีมกันแดดให้เหมาะสม

เพราะครีมกันแดดนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการแต่งหน้า ดังนั้นหากเลือกครีมกันแดดที่ไม่ดี ก็อาจทำให้เราหมดสิทธิ์สวยได้ แนะนำว่าควรเลือกครีมกันแดดเนื้อบางเบา ชุ่มชื้น แบบไม่เปลี่ยนสีผิว ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพราะอาจทำให้ผิวแห้งระคายเคือง และเกิดผดผื่นขึ้นมาได้ หากเราได้ครีมกันแดดที่ใช่ บอกเลยว่าขั้นตอนต่อไปก็สบาย

และทั้ง 3 สเต็ปนี้ก็คือวิธีง่าย ๆ ในการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนแต่งหน้า ที่จะช่วยให้เราแต่งหน้าติดทน ได้งานผิวสวยฉ่ำ ไม่ว่าจะหน้าร้อน หน้าหนาว หรือหน้าฝน ก็แต่งหน้าได้สวยทนทุกฤดู!

        อนิเมะนั้นมีให้เราเลือกรับชมกันหลากหลายแนว ยกตัวอย่างเช่น slice of life, action, comedy, fantasy, drama และ romantic ซึ่งประเภทที่จะมาแนะนำในวันนี้นั่นก็คือ แนวดราม่า ที่จะพาคุณน้ำตาไหล ไม่ว่าจะเป็นเพราะซึ้ง เศร้า หรือเสียใจ เหมาะกับสายดราม่าสุด ๆ ในวันนี้เราก็ได้ยกมาแนะนำ 3 เรื่องด้วยกัน ไปดูกันเลย

  • เพลงรักสองหัวใจ (Your lie in April)

 


        เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Arima Kosei นักเรียนชายมัธยมคนหนึ่งที่เป็นอัจฉริยะทางด้านเปียโน แต่เมื่อเขาได้สูญเสียแม่ไป เขาก็ได้สูญเสียความสามารถทางด้านเปียโนไปด้วย ทำให้เขาไม่สามารถกลับมาเล่นเปียโนได้อีกเลย จนได้พบกับ Miyazono Kaori เด็กสาวนักไวโอลินที่เข้ามาทำให้ชีวิตของ Arima Kosei ได้เปลี่ยนไป ทั้งในชีวิตประจำวันและในโลกของดนตรี การเริ่มต้นใหม่จึงได้เริ่มขึ้น เรื่องราวของเขาทั้ง 2 คนจะเป็นอย่างไรต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ต้องไปร่วมลุ้นกัน

 

  • Orange

 


        เป็นเรื่องราวของเด็กสาวม.ปลายคนหนึ่งชื่อ “นาโฮ ทาคิยามะ” ที่จู่ ๆ ก็ได้รับจดหมายจากตัวเองในอนาคตในวัย 27 ที่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยหวังให้เธอในตอนที่ได้รับจดหมายนั้นช่วยแก้ไขเรื่องราวในอดีต โดยเธอในวัย 27 ปี ก็ต้องแก้ไขเรื่องราวในอนาคตด้วยเช่นกัน โดยในจดหมายได้บอกว่า ให้จับตาดูเกี่ยวกับนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาในวันนั้น “นารุเสะ คาเครุ” พร้อมถึงเล่าเรื่องราวในช่วงเวลานั้นที่ได้รู้จักเขา สนิทกัน จนถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่ได้สูญเสียเขาไป

 

  • Kimi ni todoke ฝากใจไปถึงเธอ

 


        Kimi ni todoke หรือ ฝากใจไปถึงเธอ เป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงมัธยม “คุโรนุมะ ซาวาโกะ” ที่ได้รับการตั้งฉายาจากเพื่อน ๆ ร่วมชั้นว่า “ซาดาโกะ” เพราะเธอมีลักษณะเหมือนกับตัวละครผีสาวผมยาวในหนังผีเรื่องเดอะริงส์ แล้วยังมีข่าวลือว่าซาวาโกะนั้นมีพลังสัมผัสวิญญาณและสามารถสาปแช่งผู้คนได้ ทำให้ซาวาโกะนั้นถูกผู้คนรอบข้าง และเพื่อน ๆ หวาดกลัวและเข้าใจผิดมาโดยตลอด จนมาได้เจอกับ “คาเสะฮายะ” เด็กหนุ่มที่เป็นที่นิยมของคนในโรงเรียน คาเสะฮายะได้เข้ามาพูดคุยกับซาวาโกะอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีท่าทีหวาดกลัวใด ๆ การที่ทั้งคู่ได้มารู้จักกันนั้น ทำให้ซาวาโกะอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนที่ร่าเริง สดใส และเป็นที่รักของเพื่อน ๆ ได้อย่างคาเสะฮายะ เรื่องราวมิตรภาพและความรักของซาวาโกะจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม 

search on google

หากคุณกำลังมองหา SEO Agency เพื่อเข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้ผู้คนรู้จักมากขึ้นด้วยการทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหาหน้าแรกของ Search Engine ชื่อดังอย่าง Google อยู่ล่ะก็ คุณต้องตอบคำถาม 3 คำถามเหล่านี้ให้ได้ก่อน เพื่อที่จะได้รู้จุดประสงค์ของการทำ SEO อย่างแท้จริง และยังช่วยให้เลือก SEO Agency ได้ดีขึ้นอีกด้วย

ต้องถามตัวเองก่อนว่าต้องการทำ SEO ไปเพื่ออะไร

แน่นอนว่าหน้าที่ของ SEO Agency  ที่ดีนั้นก็คือช่วยวางแผนทางด้านการตลาดและการทำ SEO เพื่อให้ธุรกิจของคุณบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่คุณเองก็ต้องรู้ด้วยว่าเป้าหมายของธุรกิจหรือแคมเปญนั้น ๆ คืออะไร เช่น ต้องการเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้น หรือต้องการยอดขายที่มากขึ้น เพื่อที่จะได้วางแผนงบประมาณได้อย่างถูกต้อง และบรีฟงานกับทางเอเจนซีได้อย่างแม่นยำ

 

ต้องการเอเจนซีที่สามารถเขียนคอนเท้นต์ได้ด้วยหรือไม่?

หากบริษัทหรือองค์กรของคุณนั้นมีทีมงานที่สามารถเขียนคอนเท้นต์ได้แล้ว คุณก็อาจจะแค่มองหาเอเจนซีที่ช่วยสร้าง Backlinks ให้ได้ เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีขึ้นบน Google Search แต่ถ้าหากคุณไม่มีทีมที่สามารถเขียนบทความต่าง ๆ ได้ หรือเขียนได้ไม่เพียงพอ ก็ควรมองหาเอเจนซี SEO ที่สามารถเขียนคอนเท้นต์ได้ด้วย จะได้ตอบโจทย์ในด้านนี้อย่างเต็มที่ 

 

หากคุณสามารถตอบคำถามทั้ง 2 ข้อนี้ได้อย่างครบถ้วน คุณก็จะสามารถมองหา SEO Agency ที่ตรงใจมากยิ่งขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยให้การทำงานของทีมและของเอเจนซีนั้นเป็นไปได้ด้วยความสะดวกและตรงตามเป้าหมายมากขึ้นอีกด้วย 

เครื่องปั่นไฟนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการประกอบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นในไซต์งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม ไลน์ผลิตที่ต้องมีการสำรองไฟไว้ตลอดเวลา เผื่อเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ ไปจนถึงธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง ก็ควรสำรองไฟไว้ใช้เช่นกัน แต่เครื่องปั่นไฟมือหนึ่งมีราคาค่อนข้างสูง  ผู้ประกอบการหลายรายจึงนิยมใช้เครื่องมือสองกัน ถ้าหากธุรกิจของใครที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปั่นไฟแล้ว การนำอุปกรณ์ดังกล่าวมาจำหน่ายให้ร้านรับซื้อเครื่องปั่นไฟมือสอง นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว

ขอบคุณรูปภาพจาก seapowergent.com

 

ร้านรับซื้อเครื่องปั่นไฟมือสอง ตัวกลางของผู้จำหน่ายและผู้ซื้อ

สำหรับธุรกิจใดก็ตามที่มีเครื่องปั่นไฟ แต่ไม่ค่อยได้ใช้งานแล้ว หรือต้องการซื้อเครื่องใหม่ การนำเครื่องเดิมมาจำหน่ายให้ร้านนำไปขายต่อให้กับธุรกิจรายอื่นที่ต้องการอุปกรณ์นี้ในต้นทุนที่ต่ำลงถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะแทนที่จะเก็บไว้เฉยๆ ยังสามารถได้เงินจากการขายเครื่องเพื่อนำไปต่อยอดได้ส่วนหนึ่ง

การจะขายต่อให้ได้ราคาดีนั้น จำเป็นต้องเลือกร้านให้ดี มีมาตรฐานในการกำหนดราคา เช่น 

  • SEA Power Gent ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร
  • Namsaeng ตั้งอยู่ในเขตหนองแขม กรุงเทพฯ
  • QuinL ตั้งอยู่ในจังหวัดอยุธยา

3 ร้านนี้เป็นร้านที่รับซื้อและจัดจำหน่ายเครื่องปั่นไฟคุณภาพดี มีการตรวจเช็กสภาพก่อนซื้อ เพื่อให้ผู้ขายได้ราคาที่เหมาะสม และนำไปจำหน่ายต่อในราคาที่ดีที่สุด

 

แบรนด์เครื่องปั่นไฟที่ร้านค้ารับซื้อไปจำหน่ายต่อ

สำหรับยี่ห้อและรุ่นที่สามารถนำไปขายต่อให้ร้านรับซื้อเครื่องปั่นไฟมือสอง เพื่อให้ได้เงินมาส่วนหนึ่งนั้น ควรเป็นแบรนด์มาตรฐานที่ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องปั่นไฟได้คุณภาพ ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน หลักๆ ก็อย่างเช่น Cummins, Denyo, Caterpillar และ  Mitsubishi ซึ่งจะการันตีได้ว่าสามารถใช้งานได้ยาวนาน ผู้ที่ซื้อต่อก็ไม่ต้องกังวลเช่นกัน

 

เครื่องปั่นไฟเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่ขายต่อได้และยังคงมูลค่าเอาไว้ แม้จะเป็นเครื่องมือสองแล้ว ก็ยังคงมีผู้ให้ความสนใจซื้อต่อ หากใครที่ไม่ต้องการอุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว ก็สามารถนำมาตีราคากับทางร้านรับซื้อเครื่องปั่นไฟมือสองที่เราแนะนำกันไปได้เลย

 

การติดฟิล์มกระจกออฟฟิศนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับธุรกิจที่มีออฟฟิศเป็นของตัวเอง และยิ่งหากบริษัทไหนที่อยู่ชั้นสูงๆ แล้วละก็ หากไม่ติดฟิล์มก็อาจจะทำให้อุณหภูมิในออฟฟิศร้อนจนไม่ทำงานไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วการติดฟิล์มกระจกออฟฟิศนั้นไม่ได้ยากอย่างที่หลายๆ คนคิดเลย แถมไม่จำเป็นต้องเป็นช่างมืออาชีพก็สามารถติดได้อย่างสวยงามเช่นกัน ซึ่งในบทความนี้เราก็จะมาสอนติดฟิล์มกระจกออฟฟิศกัน จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ตามไปดูเลย

 

  • ผสมน้ำยา
    ขั้นตอนแรกเลยก็คือการผสมน้ำยา โดยการใช้น้ำ ผสมกับน้ำยาติดฟิล์ม หรือหากใครไม่มีก็ใช้แชมพูก็ได้เช่นกัน

 

 

 

  • ทำความสะอาดผิวกระจก

 

เช็ดทำความสะอาดกระจกให้เรียบร้อย เพราะหากมีฝุ่น หรือสิ่งสกปรกเกาะอยู่ก็อาจทำให้ฟิล์มไม่เรียบเนียน หรือหลุดลอกได้

 

 

  • ฉีดน้ำยาที่ได้ผสมไว้

 

จากนั้นฉีดน้ำยาที่ได้ผสมไว้ในขั้นตอนแรกลงบนแผ่นฟิล์มให้ทั่ว 

 

 

  • ทำการติดฟิล์มลงบนกระจก

 

จากนั้นทำการติดฟิล์มลงบนกระจก และทำการรีดน้ำออกจากบนลงล่าง หรือจะซ้ายไปขวาก็ได้เช่นกัน นึกง่ายๆ ว่าคล้ายการติดฟิล์มโทรศัพท์นี่แหละ

 

 

  • เก็บรายละเอียด

 

นำคัตเตอร์มากรีดบริเวณแผ่นฟิล์มที่เกินออกมา เพื่อเก็บรายละเอียดบริเวณขอบให้เรียบร้อย รวมถึงใช้ทิชชูรีดบนแผ่นฟิล์มอีกรอบ เพื่อไล่อากาศและน้ำยาให้เรียบเนียน

 

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถติดฟิล์มกระจกออฟฟิศเองได้แล้ว! เห็นไหมล่ะว่าง่ายมากๆ และรวดเร็วสุดๆ แถมยังเหมาะกับออฟฟิศที่งบน้อยอย่างมาก เพราะไม่ต้องเสียเงินจ้างช่างติดฟิล์มเลย รู้แบบนี้แล้วก็ไปลองทำตามกันได้เลย แต่แนะนำว่ามือใหม่ก็ควรลองเริ่มจากกระจกบานเล็กๆ ดูก่อน